วันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2553

โรงเรียน...น้ำท่วม

กลางเดือนตุลาคม 2553
ช่วงที่ครูและนักเรียนปิดภาคเรียนที่ 1

   ทุกครั้งที่ดูข่าวในช่วงนี้หลายจังหวัดเกิดอุทกภัยน้ำท่วม หลายฝ่ายต่างยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือกันและกัน ได้เห็นบรรยากาศความรัก ความสามัคคี ของคนไทยด้วยกันอีกด้าน ในหลวงก็ได้พระราชทานเงินส่วนพระองค์ลงมาช่วยเหลือหลายพื้นที่ ทำให้ปวงชนที่ได้รับน้ำพระทัยจากพระองค์ท่านปลาบปลื้มปิติทั่วหน้า..

   โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา จ.บุรีรัมย์ ของเรา ก็หนีไม่พ้นน้ำท่วม น้ำเริ่มหนุนทะลักเข้าช่วงวันที่วันที่ 18 ตุลาคม ทำให้พื้นที่ของโรงเรียนหลายแห่งจมอยู่ใต้น้ำ แม้ว่าฝนเริ่มหยุดตกมาหลายวันแล้วก็ตาม..

ภาพบรรยากาศน้ำท่วมที่โรงเรียน

 บริเวณหน้าบ้านพักครูใหญ่
    ช่วงบ่ายโมงของวันที่ 17 ตุลาคม ฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ผมคิดว่าน้ำคงจะท่วมหลายพื้นที่ของโรงเรียนแน่ๆ แต่พอฝนหยุดตก น้ำกับไม่มีเหลือไว้ท่วมเท่าที่ผมคิดเอาไว้ก่อนหน้า แต่พอมาถึงวันที่ 18 ตุลาคม ฝนตกปรอยๆ ทั้งวันแต่น้ำกลับเริ่มหนุนมาเรื่อยๆ น้ำทะลักเข้ามาด้านหลังบริเวณหน้าบ้านพักครูใหญ่..

 บริเวณถนนฝั่งบ้านพักคุณเจมส์(ผู้สนับสนุนงบประมาณโรงเรียน)
     ถนนด้านหลังของโรงเรียนน้ำหนุนเข้ามาเร็วกว่าทุกบริเวณ เพราะอยู่ใกล้คลองลำมาศ ทำให้คลองที่เหือดแห้งมาเกือบตลอดทั้งปีเอ่อล้นไปด้วยน้ำ..

ท้องทุ่งข้าวอันเขียวขจีของเรา
    ต้นข้าวที่กำลังออกร่วงข้าวอ่อนๆ และผักบุ้งมากมาย(แหล่งอาหารอร่อยๆ ของคุณครูหลายท่าน) ก็หนีไม่พ้นกับน้ำท่วมในครั้งนี้ รวมทั้งหมูป่าของเรา สัตว์ต่างๆ นานาในท้องทุ่งต่างว่ายน้ำ เล่นน้ำอย่างหรรษา บางชนิดร้องระงมตลอดทั้งคืน พวกเขาอาจจะขอบคุณกับน้ำท่วมในครั้งนี้..

 ทิวสน..ฝั่งรั้วอีกด้านของโรงเรียน
    ผมเคยเขียนเรื่องหมอกยามเช้าผ่านภาพนี้ แต่ก่อนนั้นพื้นถนนราบเรียบไปด้วยใบสนที่ปกคลุมถนน ขณะในภาพนนี้มีแต่น้ำที่ท่วมถนนที่ราบเรียบแต่ก่อน ต้นกล้วย ต้นฝรั่งและต้นมะเขือ ก็ต่างร่ายรำตามสายลมไหวมา เพียงแตกต่างกันที่..การเต้นรำคราวนี้ได้มองสะท้อนลีลาของต้นสนผ่านกระจกบานใหญ่จากธรรมชาติ..กระจกแห่งสายน้ำ

ด้านข้างบริเวณบ้านพักครูผู้หญิงและคีตนคร
    น้ำหนุนขึ้นโดยตลอดจากวันที่ 18 ตุลาคม จนถึงวันนี้น้ำก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุด หนุนขึ้นมาที่ละน้อย ทีละน้อย เรื่อยๆ พี่หมูป่าและโรงรถของคุณครูก็ต้องย้ายหาที่อยู่ที่ปลอดภัย โดยรถต้องนำมาจอดไว้ในบริเวณลานจอดรถฝั่งอีกด้านของโรงเรียน ซึ่งบริเวณนี้น้ำยังหนุนมาไม่ถึง..

   จนถึงวันนี้ผมก็ยังได้ยินข่าวน้ำท่วมมีเพิ่มขึ้นทุกจังหวัด บางอำเภอถูกเรียกว่าเมืองบาดาลซึ่งผมฟังดูแล้วมันแรงมากกับความรู้สึก ผมเคยสัมผัสกับเหตุการณ์น้ำท่วมมาครั้งหนึ่งซึ่งเป็นสิ่งที่ทรมานมากกับการใช้ชีวิตให้เป็นปกติ แต่ครั้งนั้นทำให้ผมได้เรียนรู้สิ่งที่ผมคิดว่าน่าจะผ่านมันมาไม่ได้ แต่กลับผ่านมาได้..

  มีครูหลายท่านสงสัยว่าทำไมครูใหญ่ท่านถึงไม่สั่งให้คนงานที่โรงเรียนฯ ขนกระสอบทรายมากั้นบริเวณน้ำทะลักเข้ามาและบริเวณบ้านพักต่างๆ ทุกหลัง ครูใหญ่ท่านโพสรูปน้ำท่วมและข้อความอธิบายไว้ว่า "กลางเดือนตุลาคม น้ำท่วมใหญ่หลายจังหวัด มีคนจำนวนมากมายได้รับความเดือดร้อน เช้าวันที่ 21 ตุลาคม 2553 น้ำได้เอ่อท่วมโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา เราไม่ได้กั้นกระสอบทราย ด้วยหวังว่าน้ำทุกลูกบาศก์เมตรที่เรารับไว้จะช่วยลดความรุนแรงให้กับคนที่อยู่ปลายน้ำได้บ้าง ** เราอยากร่วมรับทุกข์นั้นไว้ด้วย **"

2 ความคิดเห็น:

  1. ชอบคำนี้มากครับ ** เราอยากร่วมรับทุกข์นั้นไว้ด้วย ** เชื่อว่าทุกอย่างจะเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆครับ วันนี้น้ำเริ่มลดแล้วนะครับ

    ตอบลบ
  2. ผมก็ชอบมากครับครูสังข์
    ดีใจด้วยนนะครับ ฝั่งโน้นน้ำเริ่มลด เป็นห่วงคุณครูทุกคนเช่นกัน..

    ตอบลบ