วันเสาร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ต้นข้าวแท้งลูก


เช้าวันที่สายฝนโปรยปราย คุณครูเปิดประเด็นกระตุ้นให้เด็กนักเรียนได้คิดด้วยคำถาม “ฝนตกอย่างนี้ เด็กๆ รู้สึกอย่างไรบ้างคะ”
บรรดานักเรียนตัวน้อย ก็ทยอยตอบคำถามที่ละคนๆ
"เย็นดีครับ ผมชอบ"
"หนูไม่ชอบค่ะ เพราะทำให้เราเปียกค่ะ"
เมื่อคำตอบสุดท้ายของคำถามแรกผ่านไป ครูก็ตั้งคำถามต่อว่า “เมื่อเห็นฝน นักเรียนคิดถึงอะไรบ้างคะ เพราะอะไร”
เด็กๆ ใช้เวลาครุ่นคิดนิดหน่อย แล้วต่างก็ตอบคำถามพร้อมแสดงความคิดเห็นกันและกันอย่างเต็มที่
บ้างก็บอกว่า “คิดถึงปลา เพราะฝนตกคงทำให้ปลาดีใจครับ ที่จะได้ว่ายน้ำอย่างสนุกสนาน”
“คิดถึงต้นไม้ค่ะ ฝนตกลงมาต้นไม้คงดีใจ เพราะจะได้ดูดเอาน้ำไปเป็นอาหารหล่อเลี้ยงตนเองให้สดชื่น ไม่เหี่ยวเฉา”
บางคนก็ตอบว่า “คิดถึงแม่ค่ะ เพราะฝนตก อากาศจะเย็นและหนาวใช่ไหมคะ เวลานอนแม่ก็จะกอดหนูค่ะ”
คำบอกเล่าจากเด็กตัวน้อย ทำให้คนเป็นครูอมยิ้มที่ได้เห็นพัฒนาการทางความคิดของลูกศิษย์
แต่คำตอบที่ทำให้ครูและเพื่อนทั้งชั้นยิ้ม พร้อมด้วยความสงสัย ดังมาจากเด็กชายคนหนึ่ง
“ผมนึกถึงต้นข้าวแท้งลูกครับ”
“ต้นข้าวแท้งลูก! อย่างไรคะ” คุณครูเอ่ยถาม
“พ่อผมบอกว่า ตอนนี้เป็นช่วงที่ต้นข้าวกำลังตั้งท้องครับ ผมก็เลยคิดว่า ฝนตกมาน้ำคงเยอะและถ้าน้ำเยอะจนท่วมนา ต้นข้าวในนาต้องแท้งลูกแน่นอนครับ”
“ต้นข้าวไม่ใช่คนจะแท้งลูกได้อย่างไรล่ะ” เสียงผองเพื่อนคนอื่นค้านขึ้นมา
เจ้าตัวก็เลยรีบตอบ “ทีคนที่กำลังท้อง เมื่อลูกไม่สามารถอยู่ในท้องต่อไปได้ ยังเรียกว่าแท้งลูกได้เลย ต้นข้าวเมื่อโดนน้ำท่วมก็ไม่มีลูกในท้องต่อไปได้อีก หรือไม่สามารถออกรวงต่อไปได้ก็ต้องเรียกว่าแท้งลูกเหมือนกัน เพราะไม่สามารถมีลูกต่อไปได้ยังไงล่ะ”
...........................................................

แม้จะผ่านการสนทนามาแล้ว แต่ครูก็ยังเฝ้าครุ่นคิดกับ “ต้นข้าวแท้งลูก” ตลอดเวลา

........คราวนี้มีต้นข้าวแท้งลูก ต่อไปจะมีต้นข้าวตายทั้งกลมหรือเปล่าหนอ.......

เด็กหนอเด็ก ความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาช่างงดงามนัก
ทำอย่างไรนะ ที่จะให้ความบริสุทธิ์ไร้เดียงสา คงอยู่อย่างนี้ยาวนาน..............

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น